สำหรับสูตรนี้เซียนพนันเคยทดลองใช้แล้วได้ผล โดยพยายามมองหาการเล่นที่มีผลออกมาซ้ำๆกัน ติดกันอย่างน้อย 3 ครั้ง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเปิดไพ่ออกมาฝั่งแบงค์เกอร์เป็นผู้ชนะ และเมื่อเช็คสถิติปรากฏว่าฝั่ง แบงค์เกอร์ชนะมาแล้ว 3 ครั้งติดกัน ให้คุณวางเดิมพันไปที่ฝั่งแบงค์เกอร์ในครั้งที่ 4 เพราะจากสถิติจะพบว่ามีโอกาสที่จะเปิดไพ่ออกมาแล้วมักจะเป็นผู้ชนะในครั้งที่ 4 สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณเช็คตารางย้อนหลังให้หาโต๊ะบาคาร่าห้องไหนที่เปิดไพ่ออกมาซ้ำกัน ติดต่อกันอย่างน้อย 3 ถึง 5 ครั้ง โดยมองจากตารางจะพบว่าสีจะเป็นสีเดียวกันเรียงกันยาว ซึ่งลักษณะนี้คล้ายหางของตัวมังกร จึงเป็นที่มาของสูตรไพ่เสือมังกร
ส่วนสูตรนี้เป็นการสังเกตการออกไพ่สลับกันไปมา มีลักษณะการตีปิงปอง ยกตัวอย่าง เช่น ออก/แบงค์เกอร์-เพลเยอร์ / แบงค์เกอร์-เพลเยอร์/ สลับกันไปแบบนี้ ถ้าเราเช็คตารางย้อนหลังพบว่ามีการสลับไปมาลักษณะนี้ 3 ครั้ง แสดงว่าเริ่มเข้าสูตรของไพ่ปิงปอง โดยส่วนใหญ่สูตรจะสลับไปมาแบบนี้ 5- 6 ครั้ง รีบแทงเลย!! เดี๋ยวตกขบวน
ถือเป็นอีกหนึ่งสูตรที่เซียนพนันส่วนใหญ่เลือกใช้ และได้รับความนิยม ยกตัวอย่างเช่น การวางเดิมพันที่จำนวนเงิน 50 บาท เมื่อเปิดไพ่ออกมาปรากฏว่าไม่ชนะ ในครั้งต่อไปจะวางเดิมพัน 100 บาท แล้วถ้าเสียจะวางเดิมพันในครั้งต่อไปเพิ่มไปอีก 200 บาท ซึ่งถ้าเปิดไพ่ออกมาในเกมนี้ คุณชนะคุณจะได้เงินกลับมา 400 บาทเท่ากับว่า ยอดทั้งหมดที่เสียไป 150 บาท ทุน 50บาท ได้กลับกำไร 200บาท นั่นเอง ซึ่งการแทงสูตรนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะทบต้นไปไม่เกิน 3-4 ครั้ง ถ้าหากไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ จะมีการเปลี่ยนห้องวางเดิมพันทันที
Text