บาคาร่า คืออะไร เล่นยังไง
นักเดิมพันหน้าใหม่ หรือหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า บาคาร่า กันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่ทราบดีว่าเป็นอย่างไร สำหรับ บาคาร่า คือ การเล่นไพ่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีมาอย่างยาวนานในอดีต มีลักษณะการเล่นก็จะคล้ายกับการเล่นไพ่ป็อกเด้งของบ้านเรานั่นเอง
ในส่วนของวิธีการเล่นนั้น จะเป็นไปในลักษณะของการแจกไพ่ฝ่ายละ 2-3 ใบเพื่อนับผลรวมของแต้ม ผู้ที่ได้ผลรวมของแต้มดีกว่า แต่ไม่เกิน 9 จะเป็นผู้ชนะ แต่หากว่าแต้มเสมอกันคือเสมอนั่นเอง แต่ก็จะมีการเรียกใบที่สามเพื่อนับผลรวมแล้วก็วัดผลแพ้ชนะกันอีกครั้ง แต่ที่ต่างจากไพ่ป็อกเด้งของบ้านเราคือ บาคาร่า คือ จะมีการเปิดให้เดิมพันทายผล โดยเดิมพันทายฝั่งที่ชนะ หรือ เสมอได้ ผู้ที่ทายถูกก็จะได้รับเงินตามที่ได้ลงเดิมพันไว้ ซึ่งถือเป็นเกมเดิมพันที่นิยมเล่นกันในคาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งก็มีหลากหลายประเทศที่นิยมเล่นไพ่ชนิดนี้กันในคาสิโนเช่นกัน
เมื่อพูดถึงกฎกติกาของเกมเดิมพัน บาคาร่า คือ อย่างที่ทราบกันดีว่ามีลักษณะคล้ายกับการเล่นไพ่ป็อกเด้งนั่นเอง โดยสามารถเล่นได้ทีละหลายคนเพราะจะเป็นการลงเดิมพันระหว่าง Play กับ Banker ซึ่งในแต่ละเกมจะใช้ไพ่ในการตัดสินสูงสุดเพียง 3 ใบเท่านั้น โดยการเตรียมการเล่นในแต่ละครั้งจะมีการใช้ไพ่ทั้งหมดประมาน 6-8 สำรับ จึงอาจยากต่อการคาดการณ์ว่าเหลือไพ่ใบไหนบ้าง หลังจากที่เริ่มเล่นไปแล้ว โดย บาคาร่า คือ จะมีตารางที่แสดงผลการแพ้ ชนะ หรือเสมอ ในเกมก่อนหน้าทั้งหมด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของผู้เล่นก่อนการลงเดิมพันครั้งต่อไป โดยมีการแบ่งการเดิมพันได้ถึง 7 แบบด้วยกัน
- TIE เป็นการเดิมพันว่าไพ่ระหว่าง PLAYER และ BANKER จะออกเสมอกัน
- SMALL เป็นการเดิมพันว่า หากเกมในรอบนั้นแจกไพ่ไม่เกิน 4 ใบ ถือว่าชนะ
- P PAIR เป็นการเดิมพันในฝั่งของผู้เล่นว่าไพ่ที่ได้นั้นจะออกคู่
- PLAYER เป็นการเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะเป็นฝ่ายชนะ
- BANKER เป็นการเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะเป็นฝ่ายชนะ
- BIG เป็นการเดิมพันว่า หากเกมในรอบนั้นแจกไพ่เกิน 4 ใบ ถือว่าชนะ
- B PAIR เป็นการเดิมพันในฝั่งของเจ้ามือว่าไพ่ที่ได้นั้นจะออกคู่
โดยมีอัตราการจ่ายเงินสูงสุดคือ B PAIR, P PAIR และ TIE ตามลำดับ โดยที่เปอร์เซ็นต์การออกหน้าไพ่แบบนี้ก็จะแตกต่าง ลด น้อยลงไป
การนับแต้ม บาคาร่า คือ
- 10, J, Q, K = 0 แต้ม
- A = 1 แต้ม
- 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 แต้มนับตามจำนวนหน้าไพ่